วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560



พบเรื่องราวน่ารู้ และเที่ยวชมปลาการ์ตูนหลากหลายสายพันธุ์ สามารถคลิกเข้ามาชมได้ที่นี่




ปลาการ์ตูนเป็นปลาทะเลสวยงามลำดับต้นๆ เนื่องจากปลาการ์ตูนเป็นปลาที่มีสีสันสวยงาม เมื่อการเลี้ยงปลาทะเลสวยงามเริ่มขยายตัว ปลาการ์ตูนจากธรรมชาติจึงถูกจับมาขายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูงและเป็นปลาที่จับได้ง่าย ปัจจุบันนี้พบว่า ประชากรของปลาการ์ตูนชนิดต่าง ๆ ได้ลดจำนวนลงอย่างมากจนเกือบเข้าภาวะวิกฤติ จึงมีการเล็งเห็นถึงความสำคัญของปลาชนิดนี้ทั้งในด้านการอนุรักษ์และคุณค่าทางเศรษฐกิจ จึงเริ่มศึกษาด้านการเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนขึ้น
ปลาการ์ตูนแต่ละชนิดจะมีรูปแบบสีที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งปกติจะประกอบไปด้วยสีส้ม แดง ดำ เหลือง และส่วนใหญ่จะมีแถบสีขาวพาดขวางลำตัว 1-3 แถบ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของปลาการ์ตูนก็ว่าได้ นอกจากนั้นปลาที่อาศัยต่างสถานที่กันอาจมีสีที่แตกต่างกันได้เรียกว่าความผันแปรของสี (colour variation) 
ปลาการ์ตูน จัดอยู่ในวงศ์ปลาสลิดหิน (Family Pomacentridae) ปัจจุบันปลาการ์ตูนทั่วโลกที่สำรวจพบ และได้รับการจำแนกแล้วมี 30 ชนิด เป็นสกุล (genus) Amphiprion29 ชนิด และ สกุล Premnas 1 ชนิด โดยปลาการ์ตูนที่พบในน่านน้ำไทยมี 7 ชนิด
ส่วนปลาการ์ตูนที่ศูนย์ ฯ เลี้ยงและเพาะพันธุ์ มีด้วยกัน 8 ชนิด ดังนี้

ปลาการ์ตูนส้มขาว (Clown anemonefish)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amphiprion ocellaris
ลักษณะทั่วไป ลำตัวมีสีส้มเข้ม มีแถบสีขาว แถบ พาดบริเวณส่วนหัว ลำตัวและบริเวณหาง ขอบของแถบสีขาวเป็นสีดำ ขอบนอกของครีบเป็นสีขาวและขอบในเป็นสีดำ ขนาดตัวโตที่สุดประมาณ 10 เซนติเมตร




ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ (Tomato anemonefish)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amphiprion frenatus
ลักษณะทั่วไป ลำตัวมีสีดำอมแดง ครีบทุกครีบมีสีแดง มีแถบสีขาว 1 แถบ พาดขวางบริเวณหลังตา ขนาดโตเต็มวัยประมาณ 12 เซนติเมตร




ปลาเพอร์คูลา (Percula clownfish)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amphiprion percula
ลักษณะทั่วไป ลวดลายบนตัว ปลาเพอคูล่าจะมีสีดำบนลำตัวมากกว่าปลาส้มขาว และแถบสีขาวกลางตัวจะมีหลายลวดลายที่ต่างกัน หนาบ้าง บางบ้าง ซึ่งไม่เหมือนกับปลาส้มขาวที่ลายขาวข้างลำตัว จะมีลายแบบเดียวกัน


ปลาการ์ตูนดำ-ขาว(Black and White Ocellaris Clown)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amphiprion ocellaris
ลักษณะทั่วไป มีชื่อวิทยาศาสตร์เหมือนกับปลาการ์ตูนส้มขาว และถือเป็นปลาชนิดเดียวกัน แต่มีการผันแปรของสี โดยส่วนที่เป็นสีส้ม หรือส้มเหลืองถูกแทนที่ด้วยสีดำ
ลัษณะลำตัวมีสีดำ มีแถบสีขาว แถบ พาดบริเวณส่วนหัว ลำตัวและบริเวณหาง ในแหล่งน้ำธรรมชาติ พบปลาชนิดนี้ได้ในถิ่นเฉพาะ คือ ทางเหนือของออสเตรเลีย


ปลาการ์ตูนลายปล้องหางเหลือง (Sebae anemonefish)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amphiprion sebae
ลักษณะทั่วไป ลำตัวมีสีดำ ส่วนหางมีสีเหลือง มีแถบขาว แถบ แถบแรกพาดอยู่บริเวณหลังตา อีกแถบพาดผ่านท้องขึ้นมายังครีบหลัง ขนาดโตที่สุดประมาณ 14 เซนติเมตร


ปลาการ์ตูนอานม้า (Saddleback anemonefish)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amphiprion polymnus
ลักษณะทั่วไป ลำตัวมีสีน้ำตาลอมดำ มีแถบขาว แถบ แถบแรกอยู่ที่หลังตา อีกแถบเริ่มบริเวณกลางลำตัวเป็นแถบโค้งพาดเฉียงขึ้นไปที่ครีบหลัง ลักษณะคล้ายอานม้า ขนาดโตที่สุดประมาณ 12 เซนติเมตร

ชนิดของปลาทะเลสวยงามที่นิยมเลี้ยง




ปลาตระกูลแดมเซล 
  ปลาชนิดนี้ส่วนมากจะมีสีน้ำเงินที่เราพบเห็นตามท้องตลาด มีหลากหลายชนิดทั้ง
  แดมเซลหางเหลือง,บลูแดมเซล,เลมอนแดมเซล รวมถึงปลาโดมิโน ซึ่งมีสีดำ
  และมีจุดเล็กๆ สีขาว จุดบนตัว และปลาม้าลายที่มีลายขาวสลับดำบนลำตัว





ปลาตระกูล dottyback ( ระดับความยากในเลี้ยง : 8.5 )
  เป็นปลาตัวเล็กที่มีสีสันฉูดฉาด ที่พบมากได้แก่ ปลาสตอเบอรี่ ปลาแพคคาเนลล่า 
  ( หวานเย็น ) ปลาไดเดรียม่า ปลารอยอลแกรมม่า ซึ่งเป็นปลาที่มีสีชมพูทั้งตัว อาจมีสีเหลือง
  สลับครึ่งบน ครึ่งล่างแล้วแต่ชนิด






ไฟร์ฟิช ( ระดับความยากในการเลี้ยง : 8 )
  เป็นปลาตระกูลโกบี้ ลำตัวยาว มีครีบหลังยาวเป็นเอกลักษณ์ สำหรับอีกชนิดหนึ่งที่พบบ่อยคือ
  Purple firefish ซึ่งมีราคาแพงกว่าเล็กน้อย


ปลาคาร์ดินัล ( ระดับความง่ายในการเลี้ยง : 7.5 )
  ส่วนมากที่พบคือ ปลาคาร์ดินัลลองฟิน ที่มีลายขาวสลับดำและ ปลาคาร์ดินัลตาแดง ซึ่ง
  เป็นปลาที่ชอบลอยนิ่งๆอยู่กับที่ ไม่ค่อยว่ายน้ำไปไหน มีลักษณะตาโต สีสันสวยงาม



ปลาตระกูล Wrasse ( ระดับความยากในการเลี้ยง : 8 )
  สำหรับปลาตระกูลนี้บางชนิดก็เลี้ยงยาก เช่น ปลาพยาบาล มีเพียงบางชนิดเท่านั้นที่เลี้ยง
  ง่าย เช่น Sixline wrasse, ปลากัดทะเล แก้วเหลือง แก้วแดง เป็นต้น ซึ่งเวลานอน
  อาจจะมุดทราย หรือ สร้างเมือกขึ้นมาห่อหุ้มตัวเอง



ปลาสิงโต ( ระดับความง่ายในการเลี้ยง : 8.5 )
  เป็นปลาที่มีรูปร่างสวยงามมาก โดดเด่นและสะดุดตา ปลาสิงโตนี้มีหลายพันธุ์แตกต่าง
  กันไป ซึ่งเป็นปลาที่แปลกและหาได้ไม่ยาก

ปลาการ์ตูน ( ระดับความง่ายในการเลี้ยง : 8.5 )
  เป็นปลาที่นิยมมากที่สุด มีหลายสายพันธุ์ เช่น ปลาการ์ตูนลายปล้อง ปลาการ์ตูนแดง
  ปลาการ์ตูนอินเดียนแดง ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ เป็นต้น แต่ที่นิยมเลี้ยงส่วนมาก คือ 
  ปลาการ์ตูนส้ม จากการ์ตูนดัง นีโม เนื่องจากเป็นที่คุ้นตามากกว่า ซึ่งปลาการ์ตูนเป็นปลา
  ที่มีลักษณะเฉพาะคือว่ายน้ำบิดไป-มา ทำให้ดูน่ารักเป็นพิเศษ และสามารถเลี้ยงได้
  โดยไม่จำเป็นต้องมีดอกไม้ทะเล ( Anemone ) ซึ่งต้องใช้ไฟจัดในการเลี้ยงเท่านั้น
  ( ไฟ MH หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ หลอดขึ้นไป )



ปลาตระกูลโกบี้ ระดับความง่ายในการเลี้ยง : 8.5 )
  เป็นปลาที่มีหลายสายพันธุ์มากที่เห็นบ่อยได้แก่ แก้วปะการัง, Two spot goby ,
  โกบี้บิน โกบี้ขาว เป็นต้น


ปลาตระกูลแทงค์ ( ระดับความง่ายในการเลี้ยง : 7 )
   เป็นปลาที่มีหลายพันธุ์ เช่น Blue tang ,Yellow tang ,Purple tang เป็นต้น สำหรับ
  ปลาที่แนะนำสำหรับมือใหม่ได้แก่ Brown tang , Baby tang เป็นปลาที่กินเยอะและ
  ถ่ายของเสียเยอะ ชอบว่ายน้ำ



ปลาหางนกยูง

ลักษณะมาตรฐานของสายพันธุ์ปลาหางนกยูง
ปลาหางนกยูง Poecilia reticulate (Peters, 1959) เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็ก มีลักษณะเด่นคือ  ลำตัวและครีบมีลวดลายและสีสันหลากหลายรูปแบบสดสวยสะดุดตา ครีบหางมีขนาดใหญ่มาก โดยเฉพาะในปลาเพศผู้  ซึ่งนอกจากจะมีครีบหางที่ยาวเป็นพวง พลิ้วแผ่กว้างสวยงามขณะว่ายน้ำแล้ว ยังมีลักษณะรูปร่างของครีบหางแตกต่างกันออกไปหลายรูปแบบ ปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจการเพาะพันธุ์ปลาหางนกยูงได้พยายามใช้หลักวิชาการทางด้านพันธุกรรมดำเนินการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มีลักษณะเด่นตามความต้องการมาเพาะพันธุ์จนได้ปลาหางนกยูงสายพันธุ์ที่แปลกใหม่และสวยงามอีกมากมายหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะเน้นความสำคัญที่ รูปแบบของครีบหาง ลักษณะลวดลายและสีของลำตัว และ/หรือลวดลายและสีของครีบ เช่น
Blue cobra guppy                    หมายถึง ปลาที่มีสีฟ้าและมีลวดลายบนลำตัวคล้ายหนังงู
Yellow tuxedo guppy             หมายถึง ปลาที่มีสีเหลืองและมีลำตัวส่วนท้ายสีดำ
Full yellow guppy                   หมายถึง ปลาที่มีสีเหลืองทองทั้งตัว
Multicolor platinum guppy   หมายถึง ปลาที่มีหลายสีและมีลำตัวเป็นสีเงินสะท้อนแสง
Snakeskin red tail                    หมายถึง ปลาที่ลำตัวมีลายจุดคล้ายหนังงูและครีบหางมีสีแดง


ลักษณะมาตรฐานของสายพันธุ์ปลาหางนกยูงเพศผู้

                ปลาหางนกยูงเพศผู้มีลักษณะ สีสันและลวดลายสวยงามกว่าปลาเพศเมียมาก กล่าวคือจะมีครีบยาวและแผ่กว้างกว่า สีจะเข้มกว่า ลวดลายจะชัดเจนและเข้มสะดุดตากว่า ปลาเพศผู้จึงเป็นที่นิยมเลี้ยงและได้รับการพัฒนาปรับปรุง เกิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ตลอดเวลา สายพันธุ์ต่างๆ ของปลาหางนกยูงที่นิยมเลี้ยงกันทั่วไปในปัจจุบันนี้ ได้แก่
1. สายพันธุ์โมเสคหรือชิลี (Mosaic/Chili)
- ลำตัวจะมีสีใดก็ได้ แต่ต้องไม่มีลวดลาย อาจมีความเงาแวววาว (แพลททีนั่ม) ได้
- ครีบหางมีลวดลายแบบโมเสค โดยลวดลายจะมีลักษณะเป็นแต้มใหญ่ ครีบหางอาจจะมีสีแดง เหลือง น้ำเงิน หรือสีใดก็ได้
- ครีบหลังควรมีลวดลายและสีที่สอดคล้องกับครีบหาง

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560

ปลาทองพันธุ์โคเม็ท

                                                 ปลาทองพันธุ์โคเม็ท



ปลาทองโคเมทเป็นปลาที่คัดสายพันธุ์ได้ที่อเมริกา โดยการพัฒนามาจากปลาทอง
ธรรมดา ได้ปลาที่มีครีบยาวขึ้น โดยเฉพาะหางจะยาวไม่น้อยกว่า 3/4 ของความยาว
ลำตัว เป็นปลาที่เลี้ยงง่ายว่ายน้ำได้รวดเร็ว ปราดเปรียวต้องการเนื้อที่สำหรับอยู่
มากกว่าปลาชนิดอื่น จึงเหมาะแก่การเลี้ยงไว้ในบ่อมากกว่าเลี้ยงไว้ในตู้หรืออ่างปลา ในอเมริกานิยมเลี้ยงกันมาก เป็นปลาที่ราคาค่อนข้างแพงในยุโรปเมื่อสิบกว่า
ปีก่อนก็ได้รับความนิยมไม่น้อย มาช่วงระยะหลังนี้ออกจะไปซาไปแต่สำหรับบ้าน
เรามีคนเลี้ยงกันน้อยอาจเป็นด้วยความรูปร่างที่คล้ายปลาคาร์พคนจึงหันมาเลี้ยง
ปลาคาร์พ ตามกระแสนิยมมากกว่า แต่ถ้าต้องการปลาทองที่มีความปราดเปรียว และอ่อนช้อยอยู่ในตัวเดียวกัน ปลาทองโคเมทน่าจะเป็นคำตอบที่ดี
รูปร่างลักษณะของปลาทองโคเมทที่ได้สัดส่วนมาตรฐานสากล
ลำตัวด้านกว้างควรอยู่ระหว่าง 3/7 ถึง 3/8 เท่าของความยาว
ครีบอกและครีบท้องจะต้องเป็นครีบคู่ แต่ครีบหลังและครีบทวารจะต้องเป็นครีบเดี่ยว
ครีบหางจะต้องยาวไม่น้อยกว่า 3/4 ลำตัว
ปลายครีบทุกครีบจะมีลักษณะแหลม 


สีมีทั้งสีเดียวกันตลอดทั้งตัวหรือเป็นลายแถบสลับสีระหว่าง สีส้ม ขาวเงิน เหลือง ถ้า
เป็นชนิดห้าสี สีพื้นของลำตัวจะต้องเป็นสีน้ำเงินและมีไม่น้อยกว่า 25 %
ทั้งหมด โดยแถบสีต่างๆ ได้แก่ สีม่วง แดง ส้ม เหลือง น้ำตาล โดยมีลายแต้มจุดเป็น
สีดำปกติปลาทองโคเมทเป็นปลาที่เลี้ยงง่ายไม่ต้องเอาใจใส่มากเหมือนปลาทอง
สายพันธุ์
อื่นๆแต่ถ้าเลี้ยงไว้ในบ่อกลางแดดจะช่วยให้ปลามีสีสดสวยยิ่งขึ้นแต่ก็ควรมีร่มไว้ให้
ปลาหลบแดดบ้าง โดยทั่วไปปลาทองโคเมทจะมีอายุระหว่าง 5-10 ปี
6 สายพันธุ์ปลาทองยอดฮิต (โลกสัตว์เลี้ยง)

          ทราบไหมว่าปัจจุบันสายพันธุ์ปลาทองที่นิยมเลี้ยงมีด้วยกันกี่สายพันธุ์ และแต่ละลายพันธุ์มีเอกลักษณ์จุดเด่นเฉพาะตัวอย่างไรบ้าง ขอเฉลยเลยละกัน สายพันธุ์ปลาทองที่มีความนิยมเลี้ยงกันในปัจจุบันมีด้วยกันทั้งหมด 6 สายพันธุ์ แต่โปรดเข้าใจความหมายของคำว่ายอดนิยมกันก่อนนะว่าผู้เขียนหมายถึง ปลาทองที่คนทั่ว ๆ ไปนิยมซื้อไปเลี้ยง ไม่ใช่สายพันธุ์ที่บรรดานักนิยมปลาทองมืออาชีพนิยมเลี้ยงเพื่อการประกวดประชันขันแข่งกันเป็นสายพันธุ์ปลาทองที่หากเราไปเดินตามตลาดปลาสวยงาม หรือ ร้านขายปลาสวยงาม ก็มักจะพบเห็นกันเป็นประจำ ซึ่ง 6 สายพันธุ์ที่ว่า ได้แก่...


ปลาทองฮอลันดา
ปลาทองฮอลันดา

ปลาทองฮอลันดา
ปลาทองฮอลันดา

 1. ฮอลันดาปักกิ่ง

          เป็นปลาทองที่มีขนาดลำตัวเล็ก ตัวกลมสั้นป้อม หลังยกสูงเหมือนหลังอูฐ หัววุ้นที่ขึ้นจะเป็นวุ้นที่ละเอียดเม็ดเล็กๆ มีสัดส่วนวุ้นแบ่งเป็นวุ้นเคี้ยว ซึ่งจะอยู่บริเวณมุมปากของปลา ซึ่งจะมองแล้วคล้ายวงช้าง ทำให้มองดูปลาแล้ว เหมือนแก้มยุ้ย ช่วงลำตัวจะกลมเหมือนลูกกอล์ฟ ช่วงท้องจะใหญ่กลมมาก ใบหางของเจ้าปักกิ่งนั้น ใบหางบนยกสูง 40-60 องศา และใบหางล่างกดลง 50-70 องศา เนื่องจากปักกิ่ง มีสัดส่วนที่กลมเพราะฉะนั้นใบหางปลาจะมีการสมดุล กับ body สันหลังที่อยู่ส่วนบนของลำตัวจะยกสูงโค้งจรดโคนหางกระโดงหลังจะตั้งตรงเหมือนกระโดงเรือ ส่วนเกล็ดจะเป็นเกล็ดที่มีขนาดเล็กละเอียดแน่น และที่สำคัญจะต้องยืนน้ำตัวตั้งตรงกับพื้นน้ำ ครีบทวารเหยียดตรง

 2. ฮอลันดายักษ์

          ลักษณะลำตัวใหญ่ ช่วงตัวยาวหนาใหญ่ ลักษณะวุ้นที่ขึ้นค่อนข้างเป็นลักษณะเรียบไม่ฟูมาก จะเป็นลักษณะกระชับ วุ้นจะขึ้นไม่มากจนขนาดปิดตา แต่จุดสำคัญวุ้นด้านแก้มปลาฮอลันดายักษ์นั้นจะเรียบ โครงสร้างของครีบจะมีแก่นกระดูก เช่น กระโดง ครีบหาง เป็นลักษณะแก่นแข็งเส้นใหญ่ บริเวณใบหางจะมีความหนาดูแล้วมีพลังเมื่อมีการว่ายน้ำ ลักษณะที่ดีของฮอลันดายักษ์จะต้องมีขนาดใหญ่ ลำตัวใหญ่ ปากกว้างวุ้นขึ้นเหมือนมงกุฎสวยใส่ที่หัว เกล็ดจะมีขนาดใหญ่ ช่วงระย่ะหางของเกล็ดจะไม่ถี่มากจะมีช่วงกว้างพอสมควร ซึ่งเมื่อใช้มือสัมผัสก็จะรู้สึกของความนูนของเกล็ด

 3. สิงห์ญี่ปุ่น




          ก่อนอื่นเรามาพูดถึงเรื่องของเกล็ดปลากันก่อน เนื่องจากปลาสิงห์ญี่ปุ่นจะมีลักษณะของเกล็ดที่แตกต่างมาก จะมีผิวที่เรียบเนียนเงาเหมือนกระจกเงาและเรียบมาก เมื่อสัมผัสกับแสงแดดจะเป็นเงาสะท้อนออกมา หัวปลามีขนาดเล็กมีวุ้นที่เป็นลักษณะเด่นคือ มีวุ้นยื่นออกมาบริเวณปากมองแล้วคล้ายงวงช้าง วุ้นส่วนกระหม่อมปลาจะแบ่งเป็นสัดส่วนเหมือนกล้ามหน้าท้องของคน ซึ่งจะแบ่งได้เป็น 6 ก้อน หรือ 8 ก้อน เป็นลูกๆ หลังโค้งสูงเป็นครึ่งวงกลม ความหนาช่วงหัวกับลำตัวจะมีขนาดเท่ากัน สันหลังโค้งจรดใบทางชิดกันพอดี ทำมุม 60-80 องศา ช่วงข้อหางจะคลุมครีบทวารพอดี


 4. สิงห์ลูกผสม (สิงห์จีน)




          เป็นปลาที่มีความนิยมมากในหมู่เด็กๆ เนื่องจากมีวุ้นที่ฟูฟ่องออกมาจำนวนมากขนาดปิดตา เป็นวุ้นก้อนใหญ่แบบหยาบไม่ละเอียดมากนัก ความน่ารักจะอยู่ที่หน้าตากลมวุ้นเยอะมาก ลำตัวจะอ้วนมากสันหลังจะไม่โค้งเหมือนครึ่งวงกลม แต่มีช่วงตัวที่ยาวกว่าสิงห์ญี่ปุ่น เกล็ดจะเป็นลักษณะหยาบไม่แววใสมีเยื่อหุ้มเกล็ดบางๆ ปลาบางตัวจะมีหลังยาวเหมือนกระดานด้วยซ้ำ

 5. สิงห์ดำ (สิงห์สยาม)




          จะมีลักษณะคล้ายสิงห์วุ้นลูกผสม แต่ลำตัวจะมีสีดำวุ้นก็จะดำด้วย ส่วนช่วงท้องของปลาสิงห์ดำจะมีสีทองออกเทาหรือดำสนิทก็ได้ ซึ่งปลาชนิดนี้จะต้องมีวุ้นขึ้นตกจนขนาดมิดตา ผิวหนังของสิงห์ดำจะมีเยื่อบางๆ ปกคลุมมีสีดำ เมื่อเกิดรอยแผลสักเล็กน้อยก็จะเห็นได้เด่นชัดขึ้นหลังมีความโค้งสวย ซึ่งมีความโค้งเทียบเท่ากับสิงห์ญี่ปุ่น แต่ความหนาลำตัวจะไม่ค่อยหนามากนักในตอนเล็ก แต่เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดลำตัวที่ใหญ่ตามลำดับ ซึ่งสิงห์ดำนั้นจะมีส่วนที่ดำทั้งตัวตั้งแต่ครีบว่าย, ครีบอก, ครีบหาง, เหงือกปลา, วุ้นและผิวเมือกปลาจะมีสีดำทั้งหมด

 6. ริวกิ้น


ปลาทองริวกิ้น

          มีตัวที่กลมเหมือนลูกบอลและมีกระโดงที่สูงเหมือนเสากระโดงเรือแก่นกระดูก ครีบกระโด่งจะใหญ่และแข็งมาก ช่วงหัวปลาริวกิ้นจะมีขนาดเล็กเหมือนหน้าหนูเป็นแบบสามเหลี่ยมหน้าจั่ว จะมีหลังที่เหมือนอูฐ (โหนกสูง) จะหักรับกับช่วงหัวพอดีซึ่งส่วนต่างๆ ของปลาริวกิ้นนี้จะคล้ายกับฮอลันดาปักกิ่งแทบทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวคือ ปลาประเภทนี้จะไม่มีหัววุ้น ลักษณะที่สวยก็คือตัวจะต้องกลมยืนน้ำต้องตั้งตรงอยู่แนวขนานกับระดับน้ำ และโหนกจะต้องสูงหักงุ้มและสันโหนกจะต้องโค้งได้รูปเป็นครึ่งวงกลมจรดปลายหางปลาพอดี ใบหางล่างจะต้องคลุมครีบทวารพอดี

          นี่แหละคือ 6 สายพันธุ์ปลาทองยอดนิยมในยุคนี้ คงพอจะทำให้ผู้อ่านรู้จักลักษณะสายพันธุ์ของปลาทองมากขึ้น และหวังว่าจะเป็นข้อมูลในการช่วยให้ท่านผู้อ่านนักรักปลาทองตัดสินใจเลือกสายพันธุ์ปลาทองที่ถูกใจมาเลี้ยงได้อย่างมีความสุข